เพื่อไทย-ภูมิใจไทย หารือตั้งรัฐบาล “อนุทิน” ลั่น ต้องไม่มี “ก้าวไกล” แม้ลดเพดาน ม.112…
เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 22 ก.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค ภท. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท. นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ บุตรชายของนายเนวิน ชิดชอบ เดินทางมายังพรรคที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศร่วมกัน โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ให้การต้อนรับ
เพื่อไทย ส่งหนังสือเชิญ “รวมไทยสร้างชาติ”ร่วมหาทางออกประเทศ
"หมอชลน่าน" รอถกโหวตนายกฯ ยันไม่ทิ้งก้าวไกล
ภายหลังการหารือแกนนำทั้ง 2 พรรคได้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การหารือวันนี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ สืบเนื่อง 8 พรรคร่วม โดยพรรคก้าวไกล ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ จึงมอบหมายให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ 8 พรรคมีมติร่วมกันว่า มอบให้เพื่อไทยไปดำเนินการพูดคุยเพื่อหาเสียงสนับสนุน ให้ถึงเป้าหมาย คือ ไม่น้อยกว่า 375 เสียง วันนี้จึงเริ่มต้นเพื่อหาเสียงเพิ่มจากพรรคการเมือง เริ่มต้นจากพรรคภูมิใจไทย เป็นการปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะ ติดเงื่อนไขพรรคก้าวไกลไม่ได้เสียงสนับสนุนจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาฯ โดยรายละเอียดได้พูดคุยแนวทางที่จะร่วมมือกันว่ามีความเป็นไปได้น้อยขนาดไหนอย่างไรในการที่จะทำงานร่วมกัน
ด้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ด้วยบรรยากาศที่ดีเนื่องจากพวกตนเคยอาศัยอยู่อาคารหลังนี้มาก่อน กลับมาที่นี่ก็มีความรู้สึกดีใจนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ และ วันนี้ก็ได้มารับทราบเจตนารมณ์ จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ตรงกับพรรคภูมิใจไทย คืออยากแก้ปัญหาทางการเมืองโดยเร็วที่สุด อยากจะให้ประเทศไทยมีรัฐบาลเข้ามาบริหาราชการแผ่นดินให้เร็วที่สุด ทางพรรคภูมิใจไทยก็ได้รับทราบเจตนารมณ์นี้ และก็แจ้งผู้บริหารพรรครวมทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่ามีข้อกังวลอะไรไรบ้างเนื่องจากพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีอยู่ใน MOU ของ 8 พรรค โดยเจตนาคมณ์ของภูมิใจไทยก็เป็นไปตามแถลงการณ์ หากพรรคภูมิใจไทยจะเข้ามาร่วมทำงานใดๆ เราไม่สามารถทำงานร่วมได้หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ซึ่งไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ แต่เป็นเรื่องของแนวทางการทำงาน ความคิดในเรื่องวิธีการทำงาน ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยคงนำไปพิจารณาข้อจำกัดนี้ ถ้ามีอะไรที่ไม่สามารถผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคไปได้พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมจะร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า เงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทยถ้ามีพรรคก้าวไกลจะทำงานร่วมไม่ได้ ทางพรรคเพื่อไทย จะมีคำตอบหรือกำหนดกรอบเวลาไว้อย่างไรบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีข้อตกลงของ 8 พรรคอยู่แล้วว่า ขั้นตอนหลังจากได้แนวทางจาก 8 พรรคร่วมแล้ว เมื่อมีคำตอบแล้ว เช่นในวันนี้ พรรคภูมิใจไทยก็มีคำตอบชัดเจนในเงื่อนไขกรณีถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่ก็ไม่สามารถร่วมงานได้ แม้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หมายความ 312 +71 เป็นไปไม่ได้ เมื่อเรารับข้อมูลจากตรงนี้นำไปสู่ที่ประชุม 8 พรรคร่วมแจ้งถึงข้อจำกัดได้รับมา
เมื่อถามว่า หลังได้รับทราบถึงข้อจำกัดแล้วจะประชุม 8 พรรคร่วมเมื่อไหร่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราพยายามแสวงหาคำตอบจากทุกพรรคเพื่อจะไปบอก 8 พรรคร่วมว่าที่ได้รับภารกิจมาได้แสวงหาไปหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลลดเพดานมาตรา 112 ลงแล้วพรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า มันเกี่ยวกับวิธีการทำงานและแนวคิดที่แตกต่างกันเยอะ
เมื่อถามว่า วันนี้ได้มีการเชิญหลายพรรคมาหารือเป็นการบอกเลิก พรรคก้าวไกลทางอ้อมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเพียงสมมุติฐานพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะ 8 พรรคร่วมบอกให้เพื่อไทยดำเนินการเราก็พยายามประสานงานเกือบทุกพรรค ถ้าจะไปตั้งสมมุติฐานเตรียมการบอกเลิกนั้นคงเป็นสมมุติฐานที่คิดไปเอง เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเชิญพรรคพลังประชารัฐ ร่วมหารือหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็คงต้องไปดูว่ามีแนวทางพูดคุยกันได้หรือไม่ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้ยังไม่มีแนวทางต้องรอดูไปก่อน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่หากต้องการปลดล็อกทางการเมือง พรรคภูมิใจไทยโหวตให้เพื่อไทยกับ 8 พรรคร่วมเป็นรัฐบาล แต่ไม่รับตำแหน่ง หรือ เข้าร่วม นายอนุทินกล่าวว่า พรรคถูมิใจไทยต้องหารือกันอีกหลายรอบ ถ้าไปถาม ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ ก็ยิ่งไปเปิดประเด็น ไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่าเป็นการฉีกMOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราทำตาม 8 พรรคร่วมมอบหมายภารกิจให้เรามาทำ แล้วก็ไปแจ้ง 8 พรรค ดังนั้นต้องดูภายใต้เงื่อนไขตรงนั้นก่อน เรายังตอบไม่ได้ว่าจะฉีกหรือไม่ฉีกอย่างไร
เมื่อถามว่ามีการเสนอว่าให้รัฐบาลรักษาการอยู่ไปอีก 10 เดือน จน ส.ว.พ้นวาระ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณในข้อเสนอนั้น ถ้าเราเอาประเทศชาติและประชาชนมาเป็นตัวตั้งต้องถามว่าประเทศชาติและประชาชนว่าเขายอมหรือไม่ 10 เดือน ที่จะมีรัฐบาลรักษาการยาวไปขนาดนั้น ด้านนายอนุทิน กล่าวเสริมว่า บทบาทของรัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่เยอะมาก รอ 2-3 เดือนเพื่อให้สถานการณ์หลังเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อยนั้นได้ แต่ถ้าจะเป็น 10 เดือน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัดมากมาย และไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง